วันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2550

เออ ไม่มีคำบรรยายใดด ๆๆ ให้ฟังแล้วลึกซึ้ง ไม่ต้องบรรยายอะไร ให้ดีเลิศเลอ

เออ ไม่มีเหตุผลไรให้ฉันต้องฝันใฝ่ แค่รู้ว่าทุกข์ใจ แค่นั้นพอ

เออ อยากตายอ่ะ

เออ เพิ่งเข้าค่ายเสร็จล่ะ นานเป็นชาติเรย แต่ก้อหนุดดีอ่ะน่ะ


"9 เทคนิค ฝึกสมองไบรท์ "
โดย วนิษา เรซ ผู้วชาญด้านอัจฉริยภาพจาก ม.ฮาร์วาร์ดผู้หญิงสมัยนี้ อยากสวย ฉลาด และสุขภาพดี ทุกคนจึงพากันดูแลรูปร่าง ด้วยการออกกำลังกาย เคร่งครัด เรื่องอาหารการกิน แต่ไม่เคยมีใครสนใจว่าจะดูแลสมองอย่างไรให้มีสุขภาพดี ทั้งที่สมอง เป็นอวัยวะที่ตัดสินใจทุกเรื่องของชีวิต เราจึงควรเอกเซอร์ไซส์สมองให้ไบรท์ด้วยเทคนิคง่าย ๆ ต่อไปนี้
1. จิบน้ำบ่อย ๆ (Drink water very often) สมองประกอบด้วยน้ำ 85 % เชลล์สมองก็เหมือนต้นไม้ที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยง ถ้าไม่มีน้ำ ต้นไม้ก็เ่ยว ถ้าไม่อยากให้เชลล์สมองเ่ยว ซึ่งส่ง ผลให้การส่งข้อมูลช้า กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดไม่ค่อยออก แต่ละวันจึงควรดื่มน้ำบ่อย ๆ
2. กินไขมันดี (Enjoy good Omega 3) คนไม่ค่อยรู้ว่าสมองคือก้อนไขมัน ซึ่งจำเป็นต้องมีไขมันดีไปทดแทนส่วนที่สึกหรอ แนะนำให้กินไขมันดีระหว่างวัน จำพวกน้ำมันปลา สารสกัดใบแปะก๊วยปลาที่มีไขมันดีอย่าง ปลาแซลมอน นมถั่วเหลือง วิตามินรวม น้ำมันพริมโรสเป็นน้ำมันดี ที่ทำให้เชลล์ชุ่มน้ำ ส่วนวิตามินซีกินแล้วสดชื่น
3. นั่งสมาธิวันละ 12 นาที (Meditation 12 min a day) หลังจากตื่นนอนแล้ว ให้ตั้งสติและนั่งสมาธิทุกเช้า วันละ 12 นาที เพื่อให้สมองเข้าสู่ช่วงที่มีคลื่น Theta ซึ่งเป็นคลื่นที่ผ่อนคลายสุดๆ ทำให้สมองมี Mental Imagery สามารถจินตนาการเห็นภาพและมีความคิดสร้างสรรค์ ( ถ้าทำไม่ ได้ตอนเช้า ) ให้หัดทำก่อนนอนทุกวัน
4. ใส่ความตั้งใจ (Program the brain: have specific intention) การตั้งใจในสิ่งใดก็ตาม เหมือนการโปรแกรมสมองว่านี่คือสิ่งที่ต้องเกิด ระหว่างวันสมองจะปรับพฤติกรรมเราให้ไปสู่เป้าหมายนั้น ทำให้ประสบความสำเร็จในสิ่งต่าง ๆ เพราะสมองไม่แยกระหว่างสิ่งที่ทำจริงกับสิ่งที่คิด ขึ้น ทั้งสองอย่างจึงเป็นเสมือนสิ่งเดียวกัน
5. หัวเราะและยิ้มบ่อย ๆ (Laugh and Smile) ทุกครั้งที่ยิ้มหรือหัวเราะ จะมีสารเอ็นโดรฟินซึ่งเป็นสารแห่งความสุข หลั่งออกมาเท่ากับเป็นการกระตุ้น ให้มีความอยากรักและหวังดีต่อคนอื่นไปเรื่อยๆ
6. เรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวัน (Learn new thing everyday) สิ่งใหม่ในที่นี้หมายถึง สิ่งต่าง ๆที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น กินอาหารร้านใหม่ ๆ รู้จักเพื่อนใหม่ อ่านหนังสือเล่มใหม่ คุยกับเพื่อนร่วมงานและเรียนรู้วิธีการทำงานของเขา เป็นต้น เพราะการเรียนรู้สิ่งใหม่ทำให้สมองหลั่งสารเอ็น โดรฟิน และโดปามีน ซึ่งเป็นสารแห่งการเรียนรู้ กระตุ้นให้อยากเรียนรู้และ สร้างสรรค์ ไปเรื่อยๆเมื่อมีความสุขก็ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์
7. ให้อภัยตัวเองทุกวัน (Forgive yourself, reduce brain stress) ขณะที่การไม่ให้อภัยตัวเอง โกรธคนอื่น โกรธตัวเอง ทำให้เปลืองพลังงานสมอง การให้อภัยตัวเอง เป็นการลดภาระของสมอง
8. เขียนบันทึก Graceful Journal (Write graceful journal, good things inlife every day) ฝึกเขียนขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นแต่ละวันลงในสมุดบันทึก เช่น ขอบคุณที่มีครอบครัวที่ดี ขอบคุณที่มีสุขภาพที่ดี ขอบคุณที่มีอาชีพที่ทำให้มีความสุข เป็นต้น เพราะการเขียนเรื่องดี ๆ ทำให้สมองคิดเชิงบวก พร้อมกับหลั่งสารเคมีที่ดีออกมา ช่วยให้หลับฝันดี ตื่นมาทำสมาธิได้ง่าย มีความคิดสร้างสรรค์
9. ฝึกหายใจลึก ๆ (Deep breath) สมองใช้ออกชิเจน 20 25 % ของออกชิเจนที่เข้าสู่ร่างกาย การฝึกหายใจเข้าลึก ๆ จึงเป็นการส่งพลังงานที่ดีไปยังสมอง ควรนั่งหลังตรงเพื่อให้ออกชิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น ถ้านั่งทำงานนาน ๆ อาจหาเวลายืนหรือเดินยึดเส้นยืดสายเพื่อให้ปอดขยาย ใหญ่ สามารถหายใจเอาออกชิเจนเข้าปอดได้เพิ่มขึ้นอีก 20 %การมีสมองที่ดีก็เหมือนทักษะทุกอย่างในโลกที่เรียนรู้ได้ แต่จะเก่งหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ถ้าเราดูแลและฝึกฝนสมองให้ดี คุณภาพชีวิตก็จะดีตาม
ที่มาhttp://fwmail.teenee.com/


vaincre (v.) [pp = vaincu] = ชนะ, เอาชนะ : Tu dois vaincre ta timidité pour parler en public. / vainqueur (n.m.) = ผู้ชนะ : Qui a été le vainqueur du Tour de France de cette année ? / vaincu (n.m.) = ผู้แพ้ : Malheur aux vaincus !
- stress (n.m.) = ความเครียด : Certains de mes élèves ont trop de stress, cela empêche de bien travailler ! / stresser (v.) = ทำให้เครียด : Tu me stresses avec toutes tes questions ! / stressé (adj.) = รู้สึกเครียด : Je suis stressé par les résultats ! / stressant (adj.) = ที่เครียด : J'ai un travail stressant en ce moment !
- avoir mal (à) + ส่วนต่างๆของร่างกาย (loc. verbale) = รู้สึกเจ็บ, รู้สึกปวดที่... : Elle n'est pas en bonne santé : elle a souvent mal partout. / faire mal (à) + ส่วนต่างๆของร่างกาย (loc. verbale) = ทำให้เจ็บ หรือปวดที่ [คลิก ... ดูคำศัพท์เพิ่มเติมเกี่ยวกับส่วนต่างๆของร่างกาย ... แล้วอยากเจ็บหรืออยากปวดที่ไหนก็เชิญ]
- Ce n'est pas la peine (loc. verbale) = ไม่จำเป็น(ต้องลำบาก) : Ce n'est pas la peine de s'inquiéter, tout se passera bien.
- Ça ira ! (รูป futur ของ Ça va !) = เดี๋ยวก็จะดี หรือสบายดี (เดี๋ยวก็ไม่เป็นอะไรแล้ว)
- se reposer (v.) = พักผ่อน : Je suis fatigué, j'ai envie de me reposer. / repos (n.m.) = การพักผ่อน : Tu travailles trop, papa. Tu as besoin de repos !
- remercier qqn (de /pour qqch)(v.) = ขอบคุณใครสำหรับ : Je te remercie de ton aide.
- indice (n.m.)= ร่องรอย, เครื่องชี้บอก, ดัชนี : L'enquête piétine, la police n'a pas beaucoup d'indices. / À la Bourse, l'indice a gagné 2,5 % [ที่ตลาดหุ้น ดัชนีเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5]- vide (adj. et n.m.)= ว่าง, ความว่างเปล่า : La classe était vide quand je suis arrivé. / N'est-ce pas nous vivons aujourd'hui dans le vide. [ทุกวันนี้มิใช่ว่าเรามีชีวิตอยู่ในความว่างเปล่าหรอกหรือ] / vider (v.) = ทำให้ว่างเปล่า : J'avais très soif et j'ai vidé le verre d'eau d'un seul coup. [ฉันกระหายน้ำมาก แล้วฉันก็ดื่มน้ำรวดเดียวจนเกลี้ยงแก้ว]
- vide (adj. et n.m.) = ว่างเปล่า, ความว่างเปล่า : La classe était encore vide quand je suis arrivé ce matin. / N'est-ce pas vivons-nous aujourd'hui dans le vide ? [ทุกวันนี้ไม่ใช่ว่าพวกเราอยู่ในความว่างเปล่าหรอกหรือ ?] / vider (v.) = ทำให้ว่างเปล่า : J'avais très soif et j'ai vidé le verre d'eau d'un seul coup. [ผมกระหายน้ำมาก แล้วผมก็ดื่มน้ำในแก้วจนเกลี้ยงในรวดเดียว] # plein (adj.) = เต็ม : Il y a la pleine lune ce soir. [คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง] /en plein air = กลางแจ้ง : Nous aimons faire des activités en plein air. /en pleine nuitr = กลางดึก : Je me réveille souvent en pleine nuit. [ผมตื่นขึ้นกลางดึกบ่อยๆ]
- effacer (v.)= ลบออกไป, ทำให้หายไป : Le professeur efface le tableau avant de réécrire. / J'efface tout et j'oublie !
- trace (n.f.)= ร่องรอย : Il y a des traces de rouge à lèvres sur ce verre. [มีรอยลิปสติกอยู่บนแก้วใบนี้น] / tracer (v.)= ทำให้เป็นเส้นหรือเป็นรอย : Le professeur trace un cercle sur le tableau. [ครูลากเส้นเป็นรูปวงกลมบนกระดาน]

ไม่มีความคิดเห็น: