วันเสาร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2551


กุมภาพันธ์ 2550
จบ ม.5
เริ่มเรียนพิเศษ
อุ๊ตอน 7.30-10.00
อรรณพ 13.00-16.00
(คอร์สเอนท์ทั้งหมดนะ)
- - -
มีนาคม 2550
เรียนพิเศษทั้งเดือน
สยามคือบ้าน พารากอนคือที่นอน
//
อยากบอกน้องๆว่าช่วงเวลาปิดเทอมขึ้น ม.6
เป็นช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดสำหรับการเตรียมเอนท์
เพราะเป็นช่วงเวลาที่เราว่าง เราพร้อมจะทุ่มเทอย่างเต็มที่
น้องไหวแค่ไหน ทำให้สุดๆไปเลยในช่วงนี้
แต่ระวังเรื่องสุขภาพกายและสุขภาพจิตของตัวเองด้วยนะ
สำหรับพี่ คิดว่า แค่เรียนให้ get ทุกประเด็นที่ผู้สอนพูดออกมา
แล้วก็ทำการบ้านให้ครบในแต่ละวัน โดยเข้าใจในสิ่งที่โจทย์พยายามจะถาม
ไม่ใช่ว่าจำมาตอบ
อย่าให้ดินพอกหางหมู อย่าโดดเรียนถ้าไม่จำเป็นจริงๆ แค่นี้ล่ะ
//
my mistakes
- ไม่เคยตื่นทันไปเรียนอุ๊ 7.00 ไปหลังแปดโมงเป็นประจำ
- หลงผิดคิดว่าตัวเองเก่งเคมี ทำให้ไม่ฟังอาจารย์อุ๊ ทำให้การเรียนเคมีไม่ได้ผลเพิ่มขึ้นเลย
แต่มาทำแบบฝึกหัด ทำโจทย์เท่านั้น
// เดือนนี้มีงานปัจฉิมของรุ่นพี่
รู้ผลหมอของรุ่นพี่ พี่รหัสที่รักยิ่งได้ศิริราช
ทำให้รุสึกว่าตัวเองน่าจะพยายามเพื่อให้สำเร็จอย่างพี่เค้าบ้าง
- - -
เมษายน 2550
เดือนนี้ก็เรียนพิเศษทั้งเดือน
สงกรานต์ก็อุดอู้อยู่กรุงเทพ
แถมตารางเรียนก็ยังแน่นขึ้น
เพราะมี enconcept คอร์สเอนท์ เพิ่มเข้ามาตอน 17.30-21.00
โชคดีที่หอเราเดินถึง enconcept สยามดิส
//
แต่รู้สึกได้นะว่าช่วงนี้ตัวเองค่อนข้างฟิต
ทำโจทย์ 15 พ.ศ. วิชาเลขกับเคมีจบไป 1 รอบ
ได้คะแนนอยู่ในเกณฑ์รับได้
//
my mistakes
- ตัดสินใจโดดอุ๊ไปเลย เพราะคิดว่ารู้เรื่องอยู่แล้ว
- ลงคอร์สดึกเกิน บางทีอาจจะเกินกำลัง
- ความที่หอต่อเน็ตได้ บางครั้งก็เสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระ
- ทำโจทย์เพื่อรู้เพียงว่า ตัวเองจะได้กี่คะแนน ทำให้ไม่ค่อยได้อะไรจากการทำโจทย์ครั้งนี้
ที่ถูกคือ ต้องวิเคราะห์ด้วยว่าโจทย์ถามอะไรเรา แล้วทำไมเราจึงตอบอย่างนี้
//
เมื่อ enconcept ปิดคอร์สลง
ทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดือนมีนาคม
พี่ยังคงทำการบ้านอุ๊และอรรณพทุกวัน
//
ปลายเดือนนี้ อุ๊กับอรรณพปิดคอร์ส
- - -
พฤษภาคม 2550
- เริ่มเรียน applied คอร์สเปิดเทอม
- ดาว้องก์คอร์ส intensive เปิดคอร์ส
- รู้ห้องเรียน ม.6 ได้อยู่คิงตึกสาม
- เปิดเทอม ได้เป็นหัวหน้าห้องโดยไม่เต็มใจ
- สมัครสอบ smart-I ครั้งแรกของปี
- - -
มิถุนายน 2550
- สอบ smart-I
- เริ่มเรียน ม.6 อย่างจริงๆจังๆ (ซักที)
- ร.ด. เปิดคอร์ส - -''
//
ช่วงเดือนนี้ก็ทำโจทย์ 15 พ.ศ. วิชาอังกฤษจบ แต่ก็ไม่ได้ดูเหตุผลว่าทำไม
ทำโจทย์ anet ปี 50 ด้วย
ได้คะแนนอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้
//
ผล smart ครั้งแรกประกาศ
ได้คะแนน 70.65 ซึ่งก็คงติดบัญชี 5 ปีได้
- - -
ก.ค. 50
- สอบซัม ม.6 คะแนนก็โอเค ไม่ดีไม่เลว
- ค่ายผู้นำ (ใช่เดือนนี้ป่าววะ)
//
my mistakes
- อ่านหนังสือแค่ 5 วันก่อนสอบซัม
สังคมและภาษาไทยยังคงใช้วิธีตื่นมาอ่านตอนตีสามของวันก่อนสอบอยู่เหมือนตอน ม.5
- เสียเวลาไปกับ harry potter เล่ม7
- เล่นเน็ตเยอะเกินไป โต้รุ่งบ่อยครั้ง
- ช่วงสอบซัมโดดเรียนพิเศษรัวมากๆ เป็นอะไรที่น่าเสียดายที่สุด
อยากบอกน้องว่า แม้ว่าจะเป็นวันเพิ่งสอบเสร็จ น้องก็ไม่ควรโดด
ถ้าหาวันชดไม่ได้
- เรียนดาวองก์จดแต่สิ่งไร้สาระ การบ้านก็ไม่ทำ
- - -
ส.ค. 50
ช่วงหลังซัม มรสุมงานเข้า
ปั่นงาน เปิดเน็ต แล้วก็งานไม่เสร็จซะที
เริ่มทำโจทย์เอนท์ฟิสิกส์ (โดยที่ไม่ได้อ่าน)
คะแนนไม่ค่อยน่าพอใจ
- สมัครสอบวิชาเฉพาะแพทย์ เลือกคณะอย่างบ้าคลั่ง
(จุฬา ศิริราช รามา) แต่สุดท้ายก็รู้สึกว่าถูกต้องแล้วที่เลือกไปแบบนี้
- สอบ smart-I รอบสาม
- - -
ก.ย. 50
- คะแนน smart-I ออก คราวนี้คะแนนดีเว่อร์
- สอบไฟนอล อ่านหนังสือแค่ 2 วัน กะจะทิ้งเกรด
- ปิดเทอม มีชดเชยดาวองก์ จัดตารางไม่ดี พลาดหลายม้วน
- เรียนตะลุยโจทย์เลขที่ oplus
- ทำโจทย์ entrance ข้อที่คิดว่าโรคจิต
- พยายามเริ่มต้นอ่านชีวะเล่มพี่เต๊น แต่ก็ล้มเหลว
- ทำโจทย์ฟิสิกส์ 15 พ.ศ. เสร็จ
- - -
ต.ค. 50
- เกรดออก แปลกใจระคนปลาบปลื้มที่ได้สี่จุดศูนย์ ๆ
- สอบความถนัดวิศวะ และความถนัดครูอย่างงงๆ
- เรียนพิเศษคอร์สตะลุยโจทย์
- เรียนดาวองก์ชดเชยอย่างบ้าคลั่ง (8.00-21.00)
- พยายามอ่านชีวะ แต่ก็ยังคงไม่สำเร็จ เลยอ่านเคมีแทน
- สมัครสอบทุน การเลือกหน่วยทุนในเวลาสองนาทีทำลายอนาคตเรา TT
แนะนำว่าให้เลือกอันที่อยากได้จริงๆ
ไม่ก็เลือกอันที่ไม่คิดว่าจะได้... เช่นเลือกคิงกับ ปตท.
เพราะถ้าได้อันที่ไม่อยากได้ มันจะลำบากใจจริงๆนะ
- - -
พ.ย. 50
- เปิดเทอม 2 กีฬาสีเริ่มต้นขึ้น
- 228 ขึ้นสแตนด์เชียร์ ซ้อมเชียร์ทุกวัน
- รู้สึกดีใจที่ไม่ต้องเป็นประธานคัตเอาท์
- อ่านหนังสือเตรียมตัวสอบทุน (เล็กน้อย)
- สอบความถนัดแพทย์
- ผลความถนัดออกวันลอยกระทง คะแนนไม่ค่อยดีเท่าไร เลยลอยมันทิ้งไปที่จุฬา
//
เดือนนี้เป็นเดือนแห่งกีฬาสี
เราแทบจะไม่ได้อ่านหนังสือเลย
อยู่ที่โรงเรียนก็ไม่ค่อยจะได้เรียนสักเท่าไร
แม้ว่าเวลาจะงวดเข้ามาใกล้แล้ว
แต่ตอนนั้น ก็ยังคงใช้ชีวิตแบบเดิมๆ
ยังคงเล่นเน็ตบ่อยๆ
ความรู้ ความพร้อมไม่ได้เพิ่มขึ้นจากเดิมแม้แต่นิดเดียว
//
แต่ถึงตอนนี้ ก็ไม่เสียดายนะ
ที่เอาเวลาไปเต็มที่กับกีฬาสี
//
- - -
ธ.ค. 50
- ผลความถนัดแพทย์ออก รู้ตอนเช้า คะแนนอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้
- สอบทุน ข้อสอบยากมาก (เลขกับวิทย์)
ไทยสังคมเขียนกันมือหงิก ส่วนอังกฤษก็มั่วๆเอาเหมือนเคย
- สอบซัมของโรงเรียน อ่านหนังสือน้อยลงกว่าเดิมอีก (1 วันก่อนสอบ)
คะแนนออกมาโอเค รับได้
- - -
ม.ค. 51
- ปีแห่งการเริ่มต้นใหม่
- เริ่มอ่านเคมีบทที่ท่องจำ
- พยายามอ่านชีวะ ม.4-6 แต่ก็ไม่สำเร็จซักที
- เริ่มทำโจทย์ไทยสังคม ของ อ.ปิง พยายามอ่านเนื้อหาสังคม แต่รู้สึกว่าน่าเบื่อ
- เริ่มโดดเรียนไป tk แต่ไม่ได้อะไรจากที่นั่น - -''
- ประกาศผลทุน ดันติดสัมภาษณ์ทั้งสองทุน เสียเวลาเตรียมตัวสัมภาษณ์ไปสองอาทิตย์
- แทบจะคุยโทรศัพท์ถึงตีสองทุกคืน
"กุลืมเลื่อนเก้าอี้อ้ะ เค้าจะให้กุผ่านสัมภาษณ์มั้ย"
- วางแผนว่าเดือนหน้าจะอ่านอะไรบ้าง แต่ทำตามแผนได้สองวันก็ล่ม
- - -
ก.พ. 51
- อ่านหนังสือเตรียมสอบ onet
- ประกาศผลทุน สัมภาษณ์ทุนกระทรวงวิทย์ผ่าน
- สอบไฟนอลที่โรงเรียน คราวนี้อ่านหนังสือวันเดียวเหมือนเคย
คืนก่อนสอบก็ยังเปิดเน็ตเล่นอยู่ - -'' แต่ก็พยายามเปิดๆหนังสือดูบ้าง
ฟิสิกส์กับเคมีโหดมาก วิชาอื่นเฉยๆนะ
- ปิดเทอมแล้ว พยายามอ่านสรุปชีวะและฟิสิกส์
เริ่มยอมรับชะตากรรมว่า ได้เท่าที่ได้ สุดท้ายก็อ่านไม่จบ
- เสียเวลาไปกับการรายงานตัวและสอบ toefl เรื่องทุน (2 วัน)
- วันก่อนสอบ onet ไปเล่นที่คอนโดกษม ให้มันติววิทย์ onet ให้
ปรากฎว่าไม่ออก 55+
- - -
มีนาคม 51
- สอบ onet ความรู้สึกคือ ชิว... พอได้.. ไม่เครียดมาก
- ช่วงว่างระหว่าง onet กับ anet ต้องไปทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกะทุน เสียเวลาไปอีก
- เกรดออก ได้ 3.96 เสียไปเพราะเผด็จ (เพราะไม่ส่งงานตะหาก - -'')
- เลิกอ่านเลขและเคมี พยายามอ่านฟิสิกส์กับชีวะ ส่วนอังกฤษเกือบจะทิ้งไปเลย
- ไทยก็อ่าน mini thai book อีกรอบนึง
- สอบ anet ด้วยความรู้สึกชิว แต่เครียดตอนออกจากห้องสอบเลขกับวิทย์
- สิ้นสุดการเดินทาง
- ทะเลาะกับมะม้าเรื่องทุนกระทรวงวิทย์
เถียงกันเกือบทุกวัน
- เที่ยว 3 trips กับ 3 ห้อง และ 1-day trip หลายอัน
- ใช้เงินเปลืองโคดๆ 55+
- ปัจฉิมและงานพรอม
- - -
เมษายน 51
- รอผล anet ออก
- รู้ผล anet ตอนอยู่บนรถบัส เห็นคะแนนแล้วค่อนข้างใจชื้น
- ผล onet ออกมา อยู่ในเกณฑ์รับได้
- ประกาศผลหมอ ก็ติดหมอจุฬาตามคาด (หลังจากคะแนน anet ออก)
- ไป รพ จุฬา ครั้งแรกในชีวิต
- ตอนนี้กำลังเครียดเรื่องหาหอพัก ที่ไหนๆ ก็เต็ม TT
- - -
อันนี้เป็นบันทึกที่พยายามเค้นออกจากความทรงจำ
รู้สึกว่าเราจะลืมๆอดีตอันโหดร้ายไปหมดแล้ว 55+
แต่ปีที่ผ่านมา ก็เป็นปีหนึ่งที่เรามีความสุขนะ
เราอาจจะไม่เต็มที่ในบางช่วง แต่ผลลัพท์ออกมาดี
สมหวังทุกอย่างที่ต้องการ
ก็โอเคแล้ว จริงมะ...



ทุกคนอย่าพึ่งตกใจ เพราะที่เล่ามาไม่ใช่ตัวสร้อยเล้ย พอดีเราไปเจอมา เป็นประสบการณที่เราเห็นว่าสุดยอดมาก สำหรับเส้นทางการเป็นแพทย์

นี่เป็นตัวอย่างของเด็กเตรียมอุดม ที่ตอนี้ ติดแพทย์ไปแล้ว เค้าอาจจะเรียนพิเศษเยอะมากน่ะ แต่เราว่า เค้าตั้งใจและมุ่งมั้นจริงๆ เราเห็นเค้าอ่านแล้วขนลุกเลย

สุดยอดมากๆ เห็นแล้วอยากทำอย่างเค้าบ้าง เฮ้อ*-*

วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2551


Songkran (thaï สงกรานต์) est le nom thaïlandais de la fête du nouvel an bouddhique. Propre au Bouddhisme theravāda et basée sur le calendrier lunaire, elle est fêtée également en Birmanie (Thingyan), au Cambodge, au Laos (Pimay) et chez les Dai du Yunnan.
En Thaïlande, les réjouissances attachées à cette fête, originellement mobiles, sont désormais fixes afin de faciliter la vie civile : elles ont lieu tous les ans du 12 au 15 avril, mais suivant les villes, les dates peuvent varier. Cependant, la date exacte du nouvel an est toujours tributaire du cycle lunaire. Elle correspond aussi à la période la plus chaude de la saison sêche.

สงกรานต์ เป็นประเพณีปีใหม่ของประเทศไทย ลาว กัมพูชา พม่า ชนกลุ่มน้อยชาวไตแถบเวียดนามและมณฑลยูนนานของจีน ศรีลังกาและทางตะวันออกของประเทศอินเดีย สงกรานต์เป็นคำสันสกฤต หมายถึงการเคลื่อนย้าย ซึ่งเป็นการอุปมาถึงการเคลื่อนย้ายของการประทับในจักรราศี หรือคือการเคลื่อนขึ้นปีใหม่ในความเชื่อของไทยและบางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชาวต่างประเทศเรียกว่า "สงครามน้ำ

วันศุกร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2551

Dear Host Family
Hello *+* May I introduce myself to you ? My name is Petcharat Maneenut. My nick name is SoY ( This Thai mean necklace)
I was born on 1st February 1998 ,17 years old. I was born and grown in Nakhon Pathom which is in the central part of Thailand. It takes only about 1 hour from my home to Bangkok (the capital city )
I am sorry to You That I sant late E-mail Because I am learning summer course in school now. I hope you read my history ready. I admit that I might not good at about English but I wish that My Host Family can help for me throughout conversation and learnind every thing in USA. I forget to tell you ; I haven't seen to USA so I am very excited to meet you and society in Hokrahoma. My family is small,there are 3 person; Papa Mama and me ; yes! I was single daughter. My father and mother are teachers in college. My dad and mom are very kind. They are take care for me everything. The most important activity of my family is having dinner together on weekday Especially My mom and I love to shopping on weekend. My characteristic ; I am talkative,generous,friendly and has a lot of sense of humor. I am enthusiastic and learn new things around me The reason why I would like to be go to USA. Ok. this is a first letter for you certainly I will write to continue a letter then I might connect to you by telephone soon
Finally, I hope that you connect with me by E-mail too so I am looking forward to respond of your

Best regard, soy

หวัดดี พี่น้อง หายหน้ากันไปนานมากๆๆ

พึ่งกลับมาเนี่ย แหะๆ พอดี ดาว้องปิดสงกรานต์ ได้กลับบ้านยะฮู้ ข้างบนเป็นจดหมายที่เราขียนถึงโฮส อาจจะผิดบ้าง เราว่าไม่บ้างล่ะ เยอะเลย อืม แต่ก็พยายามแล้วน่ะ คิดถึงเพื่อนมากมาย